05 May 2015

Assignment 2: สุขภาพจิตของคุณน่าเป็นห่วงแค่ไหน?

เนื่องจากปัจจุบันการใช้ชีวิตคนของเรานั้นเต็มไปด้วยการแข่งขันและความกดดันจากสิ่งรอบข้างเสมอ ทั้งหน้าที่การงาน สถานะทางสังคม โดยเฉพาะความกดดันจากความขาดหวังของตัวเองและผู้อื่น ซึ่งเมื่อสะสมความกังวลเหล่านี้ไว้มากๆแล้วนั้นมักจะก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตตามมา ซึ่งหากไม่ได้รับการเยี่ยวยาหรือรับการรักษาอย่างถูกวิธี อาจทำให้ผู้ป่วยนั้นมีอาการบกพร่องทางจิตหนักขึ้นจนถึงขั้นทำร้ายตัวเองละผู้อื่นได้ ดังนั้น ผู้ที่มีภาวะบกพร่องทางจิตจึงควรเข้ารับการรักษาและบำบัดตามขั้นตอนของจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา เพื่อยับยังอาการของโรค หรือรักษาให้หายขาด

ทั้งนี้ หลายคนอาจมี ความเข้าใจผิด ว่าการเข้ารับการรักษาจากจิตแพทย์นั้น จำเป็นจะต้องป่วยเป็นโรคจิตเภท (วิกลจริต) เท่านั้นถึงจะเข้ารับการรักษาได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ที่มีสภาวะซึมเศร้า ผู้ที่ติดสารเสพติด ผู้ที่มีความวิตกกังวล หรือหมกมุ่นกับบ้างสิ่งบางอย่างมากจนเกินไป ก็สามารถรับคำปรึกษาจากนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ได้เช่นกัน ดังนั้น การนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพจิตในครั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงภัยร้ายในตัวเรา และหวังว่าทุกท่านจะหันมาดูแลและเอาใส่ใจสุขภาพจิตของตัวเองมากยิ่งขึ้น

โรคทางจิตเวช คือ?

โรคจิตเวช คือ กลุ่มอาการทางจิตใจหรือพฤติกรรมที่ทำให้บุคคลนั้นเกิดความทุกข์ทรมาน หรือมีความบกพร่องในกิจวัตรต่างๆ โรคจิตเวชแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท โดยถือเอาสาเหตุและอาการเป็นตัวกำหนดโรคนั้นๆ โรคจิตเวชที่พบบ่อยๆ ได้แก่
  1. โรคจิตเภท (Schizophrenia)
  2. โรคซึมเศร้า (Depression)
  3. โรควิตกกังวลไปทั่ว (Generalized Anxiety Disorder)
  4. ความผิดปกติที่เกิดจากการใช้สารเสพติด (Substance-related Disorder) 
ที่มา (http://www.thaifamilylink.net/web/node/29)

โรคจิตเภท (Schizophrenia) คือ กลุ่มอาการของโรคที่มีความผิดปกติของความคิด ทำให้ผู้ป่วยมีความคิดและการรับรู้ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้มีผลเสียต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การดูแลตัวเอง การใช้ชีวิตในสังคม ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเริ่มเป็นเมื่ออายุประมาณ 14-16 ปี หรือช่วงปลายวัยรุ่น

ที่มา (http://www.manarom.com/article-detail.php?id=93)

โรคซึมเศร้า (Depression) คือ กลุ่มอาการของโรคที่มีความผิดปกติทางด้านจิตใจ อารมณ์ความรู้สึก ซึ่งอาจเกิดจากความสูญเสียหรือความผิดหวัง โดยผลของโรคจะกระทบต่อชีวิตประจำวันเช่นการรับประทานอาหาร การหลับนอน ความรับรู้ตัวเอง ผู้ป่วยไม่สามารถประสานความคิด ความรู้สึกของตัวเพื่อแก้ปัญหา

โรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized Anxiety Disorder) คือ เป็นกลุ่มอาการของโรคจิตเวชที่พบได้บ่อยชนิดหนึ่ง เป็นอาการวิตกกังวลที่มากเกิดกว่าคนปกติ ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อคนเราจะมีความวิตกกังวลเมื่อมีเหตุการณ์ใดๆเข้ามาและความกังวลจะหมดไปเมื่อเหตุการณ์นั้นผ่านไป แต่ในผู้ที่มีอาการของโรควิตกกังวลนั้นอาการกังวลเหล่านี้จะยังคงมีอยู่แม้เหตุการณ์นั้นๆจะผ่านไปแล้ว ก่อให้เกิดความหวาดระแวง ย้ำคิดย้ำทำถึงความหวาดกลัวเหล่านั้น และอาจก่อให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันได้

ความผิดปกติที่เกิดจากการใช้สารเสพติด (Substance-related Disorder) เป็นความผิดปรกติจากระบบประสาท ซึ่งสารเสพติดที่เข้าสู้ร่างกายส่วนใหญ่จะเข้าไปทำลายระบบประสาท ก่อให้เกิดภาพหลอน อาการซึมเศร้า หรือทำให้อารมณ์แปรปรวนได้ง่ายและส่งผลให้เกิดความรุนแรงตามมา

อะไรคือปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคจิตเวช?

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคจิตเวชนั้นมีหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยจากภายในและปัจจัยเร่งที่เป็นตัวเร่งให้อาการกำเริบ ซึ่งปัจจัยเร่งนั้นก็จะเป็นจำพวก ความผิดปกติของการหลั่งสารเคมีในสมอง การที่สมองเสื่อมถอย ความผิดปกติของการหลั่งฮอร์โมน ความเครียด เป็นต้น แต่ที่น่าสนใจคือปัจจัยที่เกิดจากภายใน เพราะนอกจาก สาเหตุจะเกิดจากพื้นฐานอารมณ์ของแต่ละบุคลแล้ว โรคทางจิตเวชยังสามารถเกิดจากพันธุกรรมได้อีกด้วย!!!



ทำไม ‘โรคจิตเวช’ จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง?

เพราะโรคจิตเวชนั้นเป็นโรคที่จำเป็นต้องได้รักการบำบัดรักษาอย่างต่อเนื่องถึงจะส่งผลในทางที่ดี แต่ในประเทศไทยนั้นเรายังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ค่อนข้างน้อย ผู้ป่วยจึงมักไม่ทราบว่าตัวเองป่วยจนกระทั้งมีอาการของโรคที่แสดงออกมาชัดเจนแล้วถึงจะได้รับการรักษา หรือในผู้ป่วยบางรายเมื่อทราบว่าตัวเองป่วยก็จะเกิดการอาการต่อต้านและไม่ยอมรับความจริง ทำให้ไม่ได้รับการรักษาเพราะกลัวคนรอบข้างกล่าวหาว่าตนเป็นบ้า ส่งผลให้เกิดความทุกข์ทรมาณต่อตนเองในการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือในบางรายอาจถึงขั้นทำร้ายตัวเองและผู้อื่นได้ ทั้งนี้ในประเทศไทยยังมีแนวโน้มของผู้ป่วยโรคจิตเวชเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย

และจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติถึงสุขภาพจิตของคนไทยที่มีอายุมากกว่า 15 ปี จะเห็นได้ว่ามีคนไทยเกือบ 20 เปอร์เซ็นที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต และมีคนไทยเพียงไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นเท่านั้นที่มีสุขภาพจิตที่ดีกว่าปกติ


แนวโน้มของโรคจิตเวชในไทย
ในปัจจุบันนั้นโรคจิตเวชในไทยมีแนวโน้มของอัตราการป่วยพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และที่น่าสังเกตุคือแม้ว่าโรคจิตเวชจะยังคงมีอัตราการป่วยน้อยกว่าโรคยอดนิยมอย่างโรคหัวใจอยู่ถึง 49.16 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับมีอัตราการป่วยไม่แตกต่างกันมากนักในโรคหลอดเลือดในสมอง และที่น่าแปลกใจเป็นอย่างยิ่งคือ โรคที่พบได้ง่ายในปัจจุบันอย่างโรคมะเร็งกลับมีอัตราการป่วยของโรคน้อยกว่าโรคจิตเวชอย่างเห็นได้ชัดถึง 31.54 เปอร์เซ็นต์


เปรียบเทียบอัตราการเกิดโรคจิตเวชต่อโรคสำคัญต่างๆ


จากการแบ่งประเภทของโรคจิตเวช ได้แก่ โรคจิตเภท โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า ติดยาเสพย์ติด และการการฆ่าตาย พบว่าโรคจิตเภทมีอัตราค่าเฉลี่ยของผู้ป่วยมากที่สุด เนื่องจากโรคจิตเภทใช้เวลาในการรักษานานกว่าโรคทางจิตอื่นๆและบางครั้งอัตราการกลับมาเป็นซ้ำพบได้ง่ายกว่าโรคจิตเวชประเภทอื่นๆ


ซึ่งจากการจัดลำดับข้อมูลของโรคที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียสุขภาวะ 20 อันดับ จะเห็นได้ว่าถึงแม้โรคจิตเวชจะไม่ก่อให้เกิดอัตราการสูญเสียถึงชีวิตมากนัก แต่กลับก่อให้เกิดความเจ็บป่วย พิการ หรือทุกข์ทรมาณในการใช้ชีวิตเป็นลำดับต้นๆ ในจำนวนของโรคสองร้อยกว่าโรคที่พบได้ทั่วไป

 

จากผลสำรวจความเสี่ยงของการเกิดโรคทางจิตเวชนั้นพบว่า เพศหญิงมีความเสี่ยงในการเกิดโรคมากกว่าเพศชายในทุกๆ ช่วงอายุ และจะมีอัตราการเกิดโรคมากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าเพศหญิงมีความคิดซับซ้อนทางจิตใจมากกว่าเพศชาย มักคิดมากและวิตกกังวลแม้แต่ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ



การเข้ารับการรักษา
  • เข้ารับคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการปรึกษาจากนักจิตวิทยาได้ โดยนักจิตวิทยาจะใช้การพูดคุยและปรับมุมมองกับคนไข้เป็นส่วนใหญ่ โดยส่วนมากผู้ป่วยที่เข้ารับการปรึกษาจะเป็นผู้ป่วยประเภทที่เกิดความบกพร่องทางด้านจิตใจ เช่น โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า เป็นต้น แต่หากผู้ป่วยมีอาการขั้นรุนแรง นักจิตวิทยาจะแนะนำให้เข้ารับการรักษาจากจิตแพทย์โดยตรง
  • เข้าพบจิตแพทย์ การเข้าพบจิตแพทย์นั้นผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษากับโรพยาบาลที่มีแผนกจิตเวชได้เลย โดยคุณหมอสามารถให้คำปรึกษา และจ่ายยาให้กับผู้ป่วยได้ หรือหากมีอาการค่อนข้างรุนแรงคุณหมอสามารถทำการรักษาต่อได้เลย
  • โทรปรึกษาปัญหาทางจิตเวช สำหรับผู้ป่วยที่ไม่กล้าไปพบจิตแพทย์โดยตรง หรือผู้ป่วยที่ไม่สะดวกเดินทางเข้าไปพบจิตแพทย์ ท่านสามารถโทรปรึกษาจิตแพทย์ได้ตามเบอร์ของสถานบริการทางจิตต่างๆ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่ปรึกษา เช่น ปัญหาหย่าร้าง ปัญหาความเครียดสะสม ซึมเศร้า วิตกกังวลจนเกินเหตุ เป็นต้น
  • ปรึกษาคุณหมอออนไลน์ การปรึกษาคุณหมอทางโลกออนไลน์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการรับคำปรึกษา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้รับคำปรึกษาจำเป็นต้องเลือกรับคำปรึกษาจากช่องทางที่ปลอดภัยด้วย 

“ร่างกายป่วยได้ จิตใจก็ป่วยได้” 
การพบจิตแพทย์รักษาโรคทางใจ  ก็เหมือนกับ
การพบแพทย์รักษาโรคทางกาย


รายชื่อผู้จัดทำ
นางสาว ธนพร เทพกิฬา 53-1156-311-7
นาย พงศธร อันตะริกานนท์ 53-1156-320-8
นาย รัชนันท์ ศักดิโยธินธาดา 53-1156-325-7