สิ่งจะมานำเสนอในวันนี้คือการทดลองสร้างกราฟด้วยเครื่องมือสองชนิดคือ
- Microsoft Excel
- ภาษา Processing
ซึ่งหัวข้อที่หยิบยกมาในครั้งนี้คือ ยอดขายของเกมคอมพิวเตอร์ "Call of Duty"
ซึ่งเป็นเกมยุคใหม่ที่ได้รับความนิยมสูง มีการวางจำหน่ายภาคต่อเป็นรายปี จึงเหมาะแก่การนำมาใช้วัดความนิยมทั้งกับตัวเกมในตระกูลนี้เอง และชี้วัดความเฟื่องฟูของธุรกิจวงการเกมในช่วงหลายปีหลังได้เป็นอย่างดี
โดยมีข้อมูลที่รวบรวมจาก www.vgchartz.com (ข้อมูลสิ้นสุด ณ วันที่ 20 ม.ค. 2014) ดังนี้
ปีที่วางจำหน่าย/ชื่อเกม/ยอดขาย (ชุด)
- 2005 - Call of Duty 2 => 2,010,000
- 2006 - Call of Duty 3 => 7,450,000
- 2007 - Call of Duty 4: Modern Warfare => 16,860,000
- 2008 - Call of Duty: World at War => 14,520,000
- 2009 - Call of Duty: Modern Warfare 2 => 24,740,000
- 2010 - Call of Duty: Black Ops => 29,610,000
- 2011 - Call of Duty: Modern Warfare 3 => 30,110,000
- 2012 - Call of Duty: Black Ops II => 28,070,000
- 2013 - Call of Duty: Ghosts => 25,280,000
- 2014 - Call of Duty: Advanced Warfare => 17,600,000
และเมื่อนำข้อมูลนี้ไปสร้างเป็นกราฟ
- สร้างด้วย Microsoft Excel
*หมายเหตุ - ผู้เขียนยังไม่ถนัดในการใช้งานภาษา Processing มากนัก จะพยายามพัฒนาฝีมือต่อไปในอนาคต
จากกราฟที่ได้จะเห็นได้ว่า ยอดจำหน่ายของเกมในตระกูล Call of Duty มียอดขายที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดเกิน 10 ล้านชุดในปี 2007 ซึ่งเป็นปีที่ Call of Duty 4: Modern Warfare วางจำหน่าย และภายหลังจากนั้นยอดขายในปีต่อๆ มาก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จนสูงที่สุดในปี 2011 กับภาค Modern Warfare 3 ที่มียอดขายสูงถึงหลัก 30 ล้านชุด และค่อยๆ ลดลงในปีต่อๆ มา (มีข้อสังเกตว่าเกมภาค Advanced Warfare ยังมียอดขายที่น้อยกว่าภาคก่อนหน้า เนื่องจากเพิ่งวางขายในเดือนพฤศจิกายน ปี 2014)
และนี่คือตัวอย่างของการใช้กราฟนำเสนอข้อมูลเพื่อให้เห็นภาพและแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้น